หลายครั้งที่เรานั่งหน้าจอทีวีและหลงใหลในเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมา ไม่ว่าจะเป็นความรัก, ดราม่า, หรือแม้กระทั่งการผจญภัยในโลกแฟนตาซี แต่รู้หรือไม่ว่ายุค 90s ถือเป็นยุครุ่งเรืองของละครโทรทัศน์และซีรีส์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว และวันนี้เราจะย้อนเวลากลับไปสู่ปี ค.ศ. 1995 เพื่อร่วมสำรวจโลกแห่งอวกาศสุดอลังการในซีรีส์ “อวกาศ 3000”
“อวกาศ 3000” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Space: Above and Beyond” เป็นซีรีส์ไซไฟที่ผลิตโดยค่าย Amblin Entertainment (บริษัทของสตีเว่น สปีลเบิร์ก) และออกฉายทางช่อง Fox ในปี ค.ศ. 1995 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของรายการโทรทัศน์แนววิทยาศาสตร์
ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในปี ค.ศ. 2163 โลกกำลังเผชิญหน้ากับสงครามครั้งใหญ่กับพันธุ์อวกาศรุกรานที่เรียกว่า “Chimera” บนเส้นทางการปกป้องมนุษยชาติ ทหารหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ถูกส่งตัวไปยังยูนิตพิเศษที่ชื่อว่า “Wildcats” ภารกิจของพวกเขาคือการลาดตระเวณและต่อสู้กับศัตรู
ตัวละคร | อธิบาย |
---|---|
Cmdr. Shane “Ace” Vasco: | นักบินเก่งกาจและหัวหน้าของ Wildcats |
Lt. J.D. “Sparky” Sparks: | ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี |
Lt. Vansen: | นักบินที่เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษในการสัมผัสกับพลังเหนือธรรมชาติ |
นอกจากการต่อสู้ในอวกาศแล้ว “อวกาศ 3000” ยังได้สำรวจประเด็นเชิงปรัชญาและจริยศาสตร์ของสงคราม ตัวละครหลักของเรื่องต้องเผชิญกับความเห็นแก่ตัว, ความกลัว และการเสียสละ
ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยเอฟเฟกต์ภาพพิเศษที่ล้ำสมัยในยุคนั้น ซึ่งสร้างขึ้นโดย Industrial Light & Magic (ILM) บริษัทเดียวกันที่ทำเอฟเฟกต์ให้กับภาพยนตร์ Star Wars การออกแบบยานอวกาศ, ยุทธวิธีการต่อสู้, และโลกของ “Chimera” ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริง
“อวกาศ 3000” ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ด้านความคิดสร้างสรรค์, การดำเนินเรื่องที่ตึงเครียด และการแสดงของนักแสดง แม้ว่าซีรีส์จะออกอากาศเพียงแค่ฤดูกาลเดียว (13 ตอน) แต่ก็ได้สร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและยังคงเป็นที่พูดถึงในหมู่นักดูภาพยนตร์ไซไฟ
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ไซไฟที่สนุก, ระทึกขวัญ, และมีเนื้อหาเชิงปรัชญา “อวกาศ 3000” ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด