The Count of Monte Cristo? A story of betrayal and improbable escapes from the depths of despair!

blog 2024-11-15 0Browse 0
The Count of Monte Cristo? A story of betrayal and improbable escapes from the depths of despair!

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์เงียบขาว-ดำยุคต้นศตวรรษที่ 20 และหลงใหลในเรื่องราวการแก้แค้นอันยิ่งใหญ่ ขอแนะนำภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังของ Alexandre Dumas เรื่อง “The Count of Monte Cristo” ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1908

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของบริษัท Biograph Company ซึ่งมี D.W. Griffith ผู้กำกับอัจฉริยะและผู้บุกเบิกเทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์อยู่เบื้องหลัง “The Count of Monte Cristo” นำแสดงโดย Frank Hall Crane ในบทบาท Edmond Dantès หรือที่ต่อมาได้รู้จักกันในนาม “The Count of Monte Cristo”

พล็อตเรื่องที่ชวนติดตาม

“The Count of Monte Cristo” เล่าถึง Edmond Dantès ทหารหนุ่มผู้ซื่อสัตย์ซึ่งถูกใส่ความผิดและถูกจำคุกอย่างไม่เป็นธรรม ณ คุกบนเกาะมอนเตคริสโต ในคุกเข้มแข็งนั้น เขาได้พบกับ Abbe Faria นักโทษสูงอายุผู้ชาญฉลาด ซึ่งสอนให้ Dantès เรียนรู้ศâteauxการต่างๆ รวมถึงภาษาต่างประเทศ

หลังจากผ่านความทรมานและขมขื่นมายาวนาน Dantès รู้จักกับแผนการหนีที่เป็นไปไม่ได้ และด้วยความช่วยเหลือจาก Abbe Faria เขาก็สามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ

ด้วยความแค้นและความต้องการจะแก้แค้นผู้ที่หักหลังเขา Dantès สร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาเป็น “The Count of Monte Cristo” ผู้มีฐานะมั่งคั่ง และใช้ความรู้ความสามารถในการจัดการกับศัตรูของเขาอย่างชาญฉลาด

ทำไมคุณต้องดูภาพยนตร์เรื่องนี้?

  • การแสดงที่โดดเด่น: Frank Hall Crane นำเสนอการแสดงที่น่าจดจำในบท Edmond Dantès และความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ เช่น ความโกรธ ความทุกข์ และความชิงชัง ได้อย่างยอดเยี่ยม
  • ภาพยนตร์เงียบขาว-ดำที่ทรงคุณค่า: “The Count of Monte Cristo” เป็นภาพยนตร์เงียบขาว-ดำที่หายากและมีมูลค่าทางประวัติศาสตร์

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์

รายละเอียด ข้อมูล
ปีฉาย 1908
ผู้กำกับ D.W. Griffith
บริษัทผู้ผลิต Biograph Company
นำแสดงโดย Frank Hall Crane
ความยาว ประมาณ 15 นาที

“The Count of Monte Cristo” (1908) เป็นภาพยนตร์เงียบขาว-ดำที่ให้ความบันเทิงและเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการเล่าเรื่องของ D.W. Griffith และนักแสดงฝีมือดี แม้ว่าภาพยนตร์จะมีความยาวเพียง 15 นาที แต่ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวการแก้แค้นอันยิ่งใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์

หากคุณเป็นแฟนภาพยนตร์คลาสสิก “The Count of Monte Cristo” (1908) เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด

TAGS